เสียงของขุนเขาและความเชื่อแรกเริ่ม

               หมู่บ้านห้วยห้อม ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าไม้เขียวชอุ่ม ที่นี่เป็นถิ่นฐานของผู้คนหลากหลายศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ และผู้ที่ยังคงยึดมั่นในความเชื่อดั้งเดิมซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ก่อนจะเริ่มฤดูกาลทำไร่หมุนเวียนในแต่ละปี ทุกครอบครัวจะออกไปสำรวจพื้นที่ด้วยกัน โดยเฉพาะครอบครัวที่ยังคงนับถือความเชื่อดั้งเดิม พวกเขาจะตัดต้นไม้หนึ่งต้นแล้วกลับไปนอนรอดูความฝันในคืนนั้น หากฝันดีก็ถือเป็นสัญญาณว่าพื้นที่นั้นเหมาะแก่การเพาะปลูก แต่หากฝันร้ายก็จะละทิ้งพื้นที่นั้นแล้วออกค้นหาพื้นที่ใหม่ต่อไป

เมล็ดข้าวแรกกับคำอธิษฐานของผืนดิน

               เมื่อถึงฤดูกาลปลูกข้าว ชาวบ้านจะช่วยกันลงแขกทำงานร่วมกันทุกครัวเรือน ก่อนเริ่มปลูกข้าวจะมีพิธีสำคัญสำหรับผู้ที่ยังคงนับถือความเชื่อเดิม โดยจะให้ชายหนุ่มหนึ่งคนและหญิงสาวหนึ่งคนเป็นผู้หยอดเมล็ดข้าวสามครั้ง เพื่อเป็นเคล็ดให้ข้าวอุดมสมบูรณ์และมีเหลือเก็บให้คนรุ่นหลัง พอถึงฤดูถอนกล้า เก็บเกี่ยว ชาวบ้านก็จะประกอบพิธีเลี้ยงไร่ เลี้ยงข้าว ตามวิถีที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ และเมื่อข้าวใหม่ถูกเก็บเกี่ยวเสร็จ พวกเขาจะนำข้าวใหม่ไปมอบให้ผู้เฒ่าผู้แก่หรือคนที่ตนเคารพกินก่อน ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อผืนดิน ต่อข้าว และต่อผู้มาก่อน

คืนแห่งเงาไฟกับเสียงเรียกของวิญญาณบรรพชน

               ในทุกปีเมื่อเดือนสิบปลายผ่านเข้าหน้าหนาว ลมเหนือเริ่มพัดแผ่วเย็น แล้วเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวในไร่หมุนเวียน ชาวบ้านจะเกี่ยวข้าวแล้วนำมาสานไว้เป็นพวงเพื่อที่จะเรียกวิญญาณข้าวไร่หมุนเวียนตามความเชื่อของบรรพบุรุษ ชาวบ้านห้วยห้อมจะทำพิธีก่อนเริ่มต้นเกี่ยวข้าว พอตกดึกจะเริ่มจุดกองไฟหน้ากระท่อมในไร่หมุนเวียนเพื่อบูชาผีป่า ผีไร่ที่เฝ้าดูแลผืนดินมาตลอดปีคืนเช่นนี้คล้ายกับคืน “ฮาโลวีน” ของคนตะวันตก ที่ผู้คนจุดแสงเทียนให้ดวงวิญญาณบรรพชนได้กลับมาพักพิง ในห้วยห้อมแสงไฟนั้นไม่เพียงแต่เพื่อขับไล่ความมืด เพื่อเชื้อเชิญความทรงจำของผู้ล่วงลับให้กลับมานั่งร่วมวงข้างกองข้าวใหม่และเสียงหัวเราะของลูกหลาน เป็นค่ำคืนแห่งการรำลึกและขอบคุณต่อทุกชีวิตที่หลอมรวมเป็นป่า

คำสอนจากป่าและลมหายใจของบรรพบุรุษ

               สำหรับชาวบ้านห้วยห้อม ความเชื่อนี้เป็นหัวใจของการดำรงอยู่ “ไร่หมุนเวียน” จึงไม่ใช่เพียงการทำเกษตรเพื่อให้มีข้าวกิน หากแต่คือสายใยแห่งความผูกพันระหว่างคนกับผืนป่า เป็นวิถีชีวิตและเอกลักษณ์ของชนเผ่ากะเหรี่ยงผู้ถือป่าต้นน้ำเป็นบ้านของตนเอง คำสอนจากบรรพบุรุษยังคงก้องอยู่ในใจลูกหลาน  “อ่อเม เก่อตอบือ  มาคึ เก่อตอปว่า” หมายความว่า “กินข้าวให้รักษาต้นข้าว ทำไร่หมุนเวียนให้รักษาป่า” คำสอนนี้สื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ คนในชุมชนรู้จักใช้ประโยชน์จากป่าอย่างรู้คุณรู้จักฟื้นฟูดูแลโดยไม่ทำลาย เพราะพวกเขาเชื่อว่าป่าคือชีวิต และไร่หมุนเวียนคือหัวใจของการอยู่รอด

ฤดูกาลที่หมุนเวียน กับความหวังที่ไม่จางหาย

               อย่างไรก็ตามปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายและข้อจำกัดจากภาครัฐได้ส่งผลต่อการใช้พื้นที่ป่าของชาวบ้าน คนรุ่นใหม่จึงกังวลว่า สักวันหนึ่งพื้นที่ทำกินของพวกเขาอาจหมดไปและความอุดมสมบูรณ์ที่บรรพบุรุษเคยรักษาไว้ อาจกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าในความทรงจำ แต่ถึงอย่างนั้น “ไร่หมุนเวียน” ยังคงเป็นเครื่องหมายของความมั่นคงทางอาหาร เป็นการเกษตรที่ไม่เพียงหล่อเลี้ยงชีวิต หากยังหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของคนในชุมชน ข้าวจากไร่หมุนเวียนคือข้าวออร์แกนิกแท้ 100% ปลอดสารเคมีเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของผู้ปลูก แม้โลกจะเปลี่ยนไปเพียงใดทุกครั้งที่ฤดูกาลใหม่เวียนกลับมา ผู้คนในห้วยห้อมก็ยังคงตื่นเต้นกับการหว่านเมล็ดแรก รอคอยต้นข้าวเขียวชอุ่มที่ไหวเอนตามลมเหมือนทุกปีที่ผ่านมา


เจน – วาสนา โชคชีวา
อาสาคืนถิ่นรุ่น 7 อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน