วันที่ออกจากบ้าน เราคือความหวังของครอบครัว ที่แบกภาระหนักอึ้งไว้บนบ่า เพราะต้องต่อสู้กับความคาดหวังของคนในครอบครัว ตลอดจนตัวเราเอง ที่ต้องการจะประสบความสำเร็จกับอะไรบางอย่าง ไม่ว่าเรื่องงาน การเรียน หรือเรื่องอื่น ๆ

แต่เมื่อการออกไปใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ยังไม่ตอบโจทย์ การกลับบ้านจึงนับเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะภายในชุมชนมีบรรยากาศที่โหยหา เต็มไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม ทั้งชีวิตผู้คนที่เงียบสงบ และคนในพื้นที่ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็รู้จักกันหมด

เราจึงหวนคืนถิ่นพร้อมกับความคิด ความฝัน แรงกาย แรงใจที่พร้อมจะกลับบ้านเกิด แต่การกลับบ้านก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องต่อสู้กับแนวคิดของคนในชุมชนที่ค่อนข้างจะเห็นต่างเรื่องการกลับบ้านว่า “เป็นความล้มเหลวของชีวิต”

กระนั้นด้วยช่องว่างภายในชุมชนที่ผลักไสคนหนุ่ม-สาว ให้ออกจากชุมชน ทำให้สังคมชนบทเต็มไปด้วยคนชราและเด็กมากกว่าคนหนุ่มสาว

เราพยายามมองหาคนเข้าใจ แต่กลับมีคนเข้าใจในชุมชนเพียงน้อยนิด จึงประสบปัญหาทางด้านจิตใจ ที่กลายเป็นความเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างในช่วงเเรก ๆ ของการกลับบ้านในทันที

หากมีเพื่อนสักคนที่เข้าใจกันคงดีไม่น้อย ดังนั้นการมองหา “เพื่อนร่วมทีม” ที่มีแนวคิดคล้ายกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งเพื่อนไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีวัยเดียวกันก็ได้ อาจจะคนในครอบครัวหรือเป็นใครสักคนที่มีความสนใจแบบเดียวกัน

การมีเพื่อนร่วมทีม ทำให้นึกถึงคคำกล่าวที่ว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” ก็เปรียบเสมือนการมีเครือข่ายที่มั่นคง มีการระดมความคิด วิธีการ เพื่อช่วยเหลือกันและกัน นอกจากนี้เพื่อนร่วมทีมจะเป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง

คล้ายกับแนวคิดของผู้เข้าร่วมในโครงการอาสาคืนถิ่น รุ่น 1-6 ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เราไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จเพียงตัวคนเดียวได้ เนื่องจากเสียงของเราจะไม่ดังพอให้ผู้อื่นได้ยิน หรือสนใจสิ่งเรากำลังสื่อสารออกไป อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะล้มเหลวอีกด้วย

ยิ่งหากเรามีความต้องการอยากกลับมาเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างที่บ้าน การมีเพื่อนคู่คิดย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้

เพื่อนร่วมทีมที่ดีจะช่วยให้การกลับบ้านของเราไม่โดดเดี่ยว ให้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่การมองหาเพื่อนร่วมทีมก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากในช่วงแรก เพราะเราต้องทุ่มเทและอดทนพอสมควรเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเรามุ่งมั่นต่อการกลับบ้านของเรามากแค่ไหน

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การกลับบ้านจะประสบความสำเร็จได้ เราจำเป็นต้องอาศัยความรู้เป็นต้นทุน และเงื่อนไขของสภาพแวดล้อมในชุมชนเป็นตัวกำหนดด้วย และสิ่งสำคัญคือแรงสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีม ครอบครัว ที่จะช่วยเติมเต็มให้ทักษะการกลับบ้านของเราพัฒนาขึ้นไปสู่การยอมรับของชุมชนได้