4 เดือนกับการทำความเข้าใจผู้คนสังคม เข้าใจตนเอง และ นำสิ่งที่เก็บสะสมมากว่า 22 ปี ทดลองมาใช้ในการทำงานจริงๆ กับองค์กรที่เราเชื่อว่า จะให้ได้มากกว่าทักษะวิชาชีพที่เราต้องการ หากจะเรียกว่า การฝึกประสบการณ์วิชาชีพคงไม่เพียงพอ เพราะตั้งแต่ตัดสินใจเลือกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาสาคืนถิ่น ทุกสิ่งอย่างที่เราได้ทำ ล้วนเป็นครั้งแรกของเราทั้งหมด

แม้สิ่งที่เราเคยทำก็ไม่เหมือนเดิมเพราะในวัย 22 ปี เราก็พึ่งใช้มันเป็นครั้งแรกเหมือนกัน พี่ ๆ ในทีมอาสาคืนถิ่น หรือใน มอส. ทำให้เรารู้สึกว่าที่นี่เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเรา เป็นพื้นที่ได้เรียนรู้ชีวิตทั้งมองตัวเอง และผู้อื่นร่วมไปด้วย ในห้วงการฝึกงาน 4 เดือนเต็ม ไม่มีวันไหนที่คิดว่าตัวเองเลือกผิดเลย หากย้อนกลับมาตกตะกอนความคิดในแต่ละเดือนก็คิดว่า คงจะดีใจมาก ๆ ที่เลือกที่นี่ ถึงแม้ว่า มอส. จะตั้งอยู่ใน กทม. ซึ่งเป็นเมืองที่เราไม่ค่อยอยากมา แต่พอได้สัมผัสผู้คนในองค์ และเพื่อนองค์กร อื่นๆ เราก็ถูกเติมเต็มหัวใจที่ดูจะเหนื่อยล้าในการใช้ชีวิตในเมืองกรุงให้มีชีวิตชีวาขึ้น และที่สำคัญไม่ค่อยอยู่ออฟฟิศออกต่างจังหวัดลงชุมชนบ่อยสิ่งนี่ก็ช่วยได้ดีเหมือนกัน

สิ่งสำคัญ คืองาน ที่ได้ทดลองจากอาสาคืนถิ่นคือ เป็นพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่อย่างตัวเรา ก็ได้ทดลองหลายอย่างในงานสื่อ ที่มาฝึกในตำแหน่ง “content creator” พี่ในองค์กรก็ให้เราได้ใช้ความคิดและลงมือทำอย่างอิสระ ภายใต้การให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา เราได้ทำในสิ่งที่อยากทำในงาน ไม่ใช่แค่การทำในสิ่งที่ต้องทำ และเชื่อว่าที่นี่ให้มุมมองมิติสื่อประเด็นทางสังคมได้ลึกขึ้น ทำให้เรามองสังคมด้วยสายตาที่หลากหลายบนความเข้าอกเข้าใจ

ท้ายที่สุดต้องขอขอบคุณที่มอบหัวใจความเป็นมนุษย์ให้กับเด็กฝึกงานคนนี้ เติบโตไปอีกขั้นของการใช้ชีวิต และ 4 เดือนนี้ คงจะเป็นช่วงชีวิตที่สำคัญกับชีวิตอีกยาวไกล ที่ไม่มีวันไหนจะไม่เติบโต และก็การเติบโตก็คงไม่มีจุดสิ้นสุด แต่เราเองก็ต้องถามตัวเองตลอดว่า “เมื่อไหร่จะโต” ทุกอย่างที่เข้ามาล้วนเป็นครั้งแรก และครั้งแรกครั้งนี้ก็ดูสวยงามให้หลายอย่างกับชีวิตเช่นกัน วันนี้อาจจะเติบโตได้เท่านี้ วันหน้าก็ค่อยเรียนรู้ไปไม่มีผิดถูกเหมือนกับที่ “อาสาคืนถิ่น” ให้เรา

“เกย” – วิศิษ กองคำ
สาขานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม